วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

การศึกษาในอียิปต์


การศึกษาในอียิปต์


อียิปต์ไม่ได้เป็นเพียงเมืองสำคัญทางด้านการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งของสถานศึกษาที่สำคัญสำหรับมุสลิมทั่วโลก คือ มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร (Al-Azhar) เป็นมหาวิทยาลัย ที่ก่อตั้งมานานกว่าหนึ่งพันปี เก่าที่สุดของอียิปต์และเป็นอันดับสามของของโลก รองจากมหาวิทยาลัย ซัยตูน (Zaitun) ของตูนีเซีย และมหาวิทยาลัยอัลกอรอวียีน (Al-Qarawiyyin) ของโมร็อคโค ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์อารยธรรมมนุษย์ในทุกสาขาวิชา ทั้งศาสนา ปรัชญา วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์ การแพทย์ วิศวกรรม เภสัชศาสตร์ เกษตรศาสตร์ และสังคมศาสตร์ (เดิมอัลอัซฮัรเป็นมัสยิด มีชื่อว่ามัสยิดอัลกอฮิเราะห์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 970 สมัยราชวงศ์ฟาตีมีย์ เพื่อให้เป็นมัสยิดของทางราชการ เป็นศูนย์กลางการประชุม การพบปะระหว่างผู้ปกครองกับประชาชน รวมทั้งการเผยแพร่บทบาทและกิจกรรมต่างๆ ของราชวงศ์ฟาตีมีย์)

ปัจจุบันมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรยังคงเป็นศูนย์รวมทางด้านวิชาการ มีนักศึกษาจากทุกมุมโลก นับแสนคนเดินทางมาศึกษาในสถาบันแห่งนี้ เป็นประภาคารทางด้านปัญญาของมนุษย์ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำไนล์อันอุดมสมบูรณ์ สถาบันการศึกษาแห่งนี้มีอิทธิพลและบทบาทอย่างมากต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศอียิปต์ เนื่องจากเป็นสถาบันที่สอนเกี่ยวกับศาสนาเป็นหลักจนกระทั่งประชาชนให้ความเชื่อถือและยึดเป็นฐานการดำเนินชีวิต

มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรเป็นสถานศึกษาซึ่งสนับสนุนแนวความคิดอิสลามสายกลางและส่งเสริมการปรองดองในสังคมที่มีความหลากหลายทางศาสนา มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีความสัมพันธ์กับประเทศไทยมายาวนาน ให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยประมาณปีละ 60-80 ทุน ปัจจุบัน (ปี 2554) มีนักศึกษามุสลิมทั้งชายและหญิงของไทยลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้จำนวนประมาณ 2,300 คน) นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรยังได้ส่งอาจารย์ชาวอียิปต์ไปสอนภาษาอาหรับในสถานศึกษา หลายแห่งในประเทศไทยด้วย

มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรเปิดรับนักศึกษาทั้งชายและหญิง แต่จะไม่มีการเรียนการสอนปะปนกัน มีวิทยาเขตทั้งในกรุงไคโรและต่างจังหวัดอีก 11 แห่ง เปิดสอนในสาขาวิชาต่างๆ เช่นเดียวกับสถาบัน การศึกษาทั่วไป แต่ที่มีชื่อเสียงและคนไทยมุสลิมนิยมส่งบุตรหลานเข้าเรียนคือสาขาที่เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรจะรับนักศึกษาต่างชาติเข้าเรียนโดยจะพิจารณาตามคุณสมบัติและเงื่อนไขดังต่อไปนี้

1.เป็นผู้ที่ได้รับทุนการศึกษาจากอียิปต์

2.เป็นผู้ที่ได้รับประกาศนียบัตรชั้นมัธยมปลาย (ซานาวี) จากสถาบันการศึกษาของอัลอัซฮัร หรือประกาศนียบัตรชั้นมัธยมปลายจากวิทยาลัยบุอูส อียิปต์

3.เป็นผู้ที่ได้รับประกาศนียบัตรเทียบเท่าระดับมัธยมปลายจากสถาบันที่สอนศาสนาอิสลามในประเทศต่างๆ ที่ได้รับการรับรองวุฒิการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร

4.นักศึกษาต่างชาติผู้สมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัรทุกคนจะต้องทดสอบความรู้ภาษาอาหรับเบื้องต้นให้ผ่านตามเกณฑ์ก่อนจึงจะสามารถเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้

การสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร

สถานที่รับสมัครอยู่ที่ตึกศูนย์อำนวยการใหญ่เกี่ยวกับการรับเอกสาร การเทียบวุฒิ และการสมัครเรียน ตั้งอยู่ ณ ฮัย ซาเบี๊ยะ เขตนัสร์ซิตี้ มี 2 หน่วยงาน คือ

1.สำนักงานขายซองสมัครเรียน หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ตังซีก” จะจำหน่ายซองเอกสาร (หลักฐานการรับสมัคร ใบคำร้องขอสมัครเข้าเรียน รายละเอียดคณะและเอกสารที่เกี่ยวข้องต่างๆ) ในราคา 200 ปอนด์อียิปต์ (ประมาณ 1,200 บาท) เปิดทำการในวันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี เวลา 09.00-12.00 น. ทั้งนี้ นักศึกษาจะต้องนำใบผลการสอบไปแสดงด้วยในการขอซื้อเอกสาร

2.สภาวิจัยอิสลามศึกษา (Islamic Research Academy) จะทำหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร และเทียบวุฒิการศึกษา เปิดทำการในวันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี เวลา 15.00-18.00 น.


เอกสารการสมัครเรียน

1.แบบฟอร์มคำร้องสมัครเข้าเรียนของมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร พร้อมทั้งอากรแสตมป์ตามที่กำหนด

2.ใบประกาศนียบัตรชั้นมัธยมปลายจากสถาบันของมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร หรือประกาศนียบัตรชั้นมัธยมปลายจากวิทยาลัยบุอูส หรือจากสถาบันที่สอนศาสนาอิสลามในประเทศต่างๆ ที่ได้รับการรับรองวุฒิการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร พร้อมใบคะแนนแสดงผลการสอบ

3.ใบรับรองการเกิดจากทางราชการ (ขอได้จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร)

4.รูปถ่ายสี จำนวน 6 รูป ขนาด 4x6 ซ.ม.

5.หนังสือเดินทาง พร้อมสำเนา

6.ใบนำสมัครเรียนซึ่งออกให้โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร

คำแนะนำต่างๆสำหรับนักศึกษา

1.นักศึกษาจะต้องอ่านคู่มือพร้อมทั้งคำแนะนำที่แนบมากับเอกสารอย่างละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบฟอร์มการเลือกคณะ

2.ภายในซองจะมีเอกสารระบุชื่อของคณะและแผนกต่างๆ ของวิทยาเขตไคโร ขอให้ศึกษาข้อมูลของคณะต่างๆ ให้ละเอียดก่อนการตัดสินใจว่าจะเรียนคณะไหน จากนั้น จึงกรอกข้อมูลต่างๆ ในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน เซ็นชื่อกำกับ พร้อมทั้งติดแผ่นเลือกคณะลงในกรอบตามลำดับให้ครบทุกแผ่น และจะต้องไม่แก้ไขหรือลบหมายเลขต่างๆ ที่ได้เลือกลำดับเอาไว้ เพราะสำนักงานจะจ่ายเอกสารให้กับนักศึกษาเพียงครั้งเดียว และจะไม่รับสมัครหากมีการลบหรือแก้ไขเอกสาร

3.มหาวิทยาลัยจะจัดให้นักศึกษาเข้าเรียนในคณะที่ได้เลือกไว้ โดยจะพิจารณาจากรายชื่อคณะและลำดับที่ระบุไว้ ประกอบกับความสามารถและความเหมาะสมของผู้สมัคร

4.นักศึกษาจะต้องเขียนความประสงค์ที่จะเข้าเรียนในคณะที่ตนต้องการสมัคร ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ได้เขียนไว้ในแบบฟอร์มเลือกคณะ และแผ่นเลือกที่นักศึกษาได้เลือกเอาไว้ สำหรับผู้ที่ต้องการจะย้ายคณะจะต้องระบุว่าเคยศึกษาในคณะใดมาก่อน พร้อมทั้งแจ้งวันออกประกาศนียบัตรลงในช่องที่กำหนดไว้ในแบบฟอร์ม

5.เก็บซองเอกสาร ใบเสร็จพร้อมหมายเลขที่สำนักงานออกให้ เพื่อความสะดวกในการติดต่อครั้งต่อๆ ไป

สถาบันการศึกษาอื่นๆ

ในอียิปต์ยังมีสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงอื่นๆ ได้แก่ มหาวิทยาลัยอเมริกัน (American University in Cairo) และมหาวิทยาลัยไคโร ซึ่งมีชื่อเสียงด้านตะวันออกกลางและอาหรับศึกษา อย่างไรก็ดี การสมัครเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยไคโร และสถาบันการศึกษาของรัฐอื่นๆ ยังไม่สะดวกนัก เนื่องจากสภาการศึกษาแห่งชาติอียิปต์ (Supreme Council of Universities) ยังไม่รับรองวุฒิการศึกษาของสถาบันการศึกษาไทย

นอกจากนี้ ยังมีสถาบันการศึกษาเอกชนอื่นๆ อีก รวมทั้งมหาวิทยาลัย 6th October ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทย มีความตกลงแลกเปลี่ยนนักศึกษาและอาจารย์กับมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร และมหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2551-2554 มหาวิทยาลัย 5th October ได้ให้ทุนการศึกษาระดับอนุปริญญาแก่นักศึกษาไทยที่กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร ปีละ 10 ทุน เพื่อศึกษาในคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม และคณะศึกษาศาสตร์ ปัจจุบัน มีนักศึกษาไทยสำเร็จการศึกษาและได้รับประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัยไปแล้ว 26 คน

ที่มา: เว็บไซต์สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไคโร http://thaiembassycairo.org/th/about.php

2 ความคิดเห็น:

  1. เป็น blog ภาษาอาหรับ และแปลภาษาอาหรับที่ดีจริงๆครับ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ11 มีนาคม 2556 เวลา 01:41

    อยากเรียนที่มหาลัย อัล-อัซฮัรมากเลยค่ะ

    ตอบลบ