วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

การติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น (30 เมษยน 2554)


การติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น (30 เมษยน 2554)สถานะ ณ เวลา 18.00 น. วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2554

1. สถานการณ์ในญี่ปุ่น

1.1 สถิติ ผู้เสียชีวิตล่าสุดรวม 14,662 ราย สูญหาย 11,019 ราย (จากรายงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น ณ วันที่ 30 เม.ย. 2554)

1.2 การเกิดอาฟเตอร์ช็อค (Aftershock)

เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2554 ได้เกิดแผ่นดินไหวในจังหวัดต่าง ๆ ตามเวลาประเทศไทย ดังนี้

- เวลา 13.07 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.อิบารากิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.6 ริกเตอร์

- เวลา 12.50 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.ฟุคุชิมะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.5 ริกเตอร์

- เวลา 12.33 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.อิบารากิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.2 ริกเตอร์

- เวลา 12.10 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.อิบารากิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.3 ริกเตอร์

- เวลา 05.23 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.มิยากิ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.2 ริกเตอร์

- เวลา 00.07 น. เกิดแผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางที่ จ.ชิบะ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 4.8 ริกเตอร์อย่างไรก็ดี ยังไม่มีรายงานความเสียหายและสึนามิจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงที่ดิน สาธารณูปโภค คมนาคมและท่องเที่ยวของญี่ปุ่นรายงานว่า หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2554 ตรวจพบว่า พื้นดินที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลใน จ.มิยากิ ขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวประมาณ 5 เท่า ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีโอกาสได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและพายุไต้ฝุ่นมากยิ่งขึ้น

1.3 รายงานสถานการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุคุชิมะที่ 1 (ฟุคุชิมะ ไดอิฉิ)

ตามที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้เคยยกระดับปริมาณกัมมันตภาพรังสีที่อนุญาตให้พนักงานสามารถอยู่ทำงานในบริเวณโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฯ ได้จาก 100 มิลลิซีเวิร์ท เพิ่มเป็น 250 มิลลิซีเวิร์ทนั้น ล่าสุดได้มีการเปิดเผยว่า ในหมู่พนักงาน 8 คนที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่และตรวจพบระดับกัมมันตรังสีในร่างกายมากกว่า 100 มิลลิซีเวิร์ทเมื่อปลายเดือนมีนาคมนั้น บริษัทการไฟฟ้าโตเกียว (Tokyo Electric Power Company: TEPCO) ได้ดำเนินการตรวจระดับรังสีตามอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายเพิ่มเติม และพบว่ามี 2 ราย ที่มีค่ากัมมันตรังสีเกิน 200 มิลลิซีเวิร์ท และหนึ่ง

ในนั้นมีค่าสูงถึง 240.8 มิลลิซีเวิร์ท ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ไปปฏิบัติหน้าที่ที่โรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 3 เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2554 และได้เหยียบขาไปในน้ำที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีในระดับสูง ทั้งนี้ การตรวจการปนเปื้อนภายในนั้น ในชั้นนี้ยังต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

1.4 การอพยพคนและปฏิกิริยาจากต่างชาติ

1.4.1 ณ วันที่ 25 เม.ย. 2554 ได้มี สอท. ของประเทศต่าง ๆ ในกรุงโตเกียว รวมทั้งสิ้น 2 ประเทศ ประกาศปิดทำการชั่วคราว และสอท. ของอีก 2 ประเทศ ย้ายที่ทำการไปยังภาคตะวันตกของญี่ปุ่น อาทิ นครโอซากา เมืองโกเบ

1.4.2 รัฐบาลประเทศต่าง ๆจำนวน 21 ประเทศออกคำแนะนำการเดินทาง (Travel Advisory) ไปญี่ปุ่นรวมไปถึงมาตรการในการอพยพพลเมืองของแต่ละประเทศประเทศ

2. การดำเนินการของไทย

2.1 การติดตามระดับกัมมันตรังสี

สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ยังไม่มีรายงานความเปลี่ยนแปลงในระดับกัมมันตรังสี จากรายงานวันที่ 26 เม.ย. 2554 เวลา 14.00 น. ที่มีว่า ระดับกัมมันตรังสีที่ตำแหน่งระยะห่าง 30 กม. จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

ฟุคุชิมะ อยู่ที่ระดับ 19.4 ไมโครซีเวิร์ท/ชม. เท่ากับปริมาณที่วัดได้เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2554 เวลา 14.00 น. ทั้งนี้ ระดับกัมมันตรังสีตามเมืองต่าง ๆ ในญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับปกติและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (ระดับกัมมันตรังสีที่ จ.อิวาเตะ อยู่ที่ 0.025 ไมโครซีเวิร์ท/ชม. จ.อิบารากิ อยู่ที่ 0.118 ไมโครซีเวิร์ท/ชม. ที่โตเกียวอยู่ที่ 0.070 ไมโครซีเวิร์ท/ชม.)

2.2 การใช้บริการสายการบิน

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานอัตราผู้ใช้บริการสายการบินเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2554 ดังนี้

กรุงเทพฯ – นาริตะ

เที่ยวบิน TG676 เวลา 07.35 – 15.45 น. อัตราผู้ใช้บริการสายการบิน 38.17% (ลดลงจาก 41.99% ในวันก่อน)

เที่ยวบิน TG640 เวลา 22.10 – 06.20 น. อัตราผู้ใช้บริการสายการบิน 39.85% (ลดลงจาก 41.07% ในวันก่อน)

เที่ยวบิน TG642 เวลา 23.50 – 08.10 น. อัตราผู้ใช้บริการสายการบิน 73.79% (เพิ่มขึ้นจาก 55.02% ในวันก่อน)

นาริตะ – กรุงเทพฯ

เที่ยวบิน TG641 เวลา 11.00 – 15.30 น. อัตราผู้ใช้บริการสายการบิน 100% (เพิ่มขึ้นจาก 99.20% ในวันก่อน)

เที่ยวบิน TG643 เวลา 12.00 – 16.30 น. อัตราผู้ใช้บริการสายการบิน 100% (เพิ่มขึ้นจาก 94.82% ในวันก่อน)

เที่ยวบิน TG677 เวลา 16.55 – 21.25 น. อัตราผู้ใช้บริการสายการบิน 98.40% (เพิ่มขึ้นจาก 98.08% ในวันก่อน)

2.3 การดูแลคนไทยในญี่ปุ่น

2.1.1 ตามที่ได้เกิดแผ่นดินไหวและ Aftershock ในบริเวณต่าง ๆ ในญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. 2554 สอท. ณ กรุงโตเกียว ได้ประสานสอบถามความเป็นอยู่ของคนไทยในพื้นที่และทราบว่าคนไทยยังปลอดภัยดี แม้บางรายจะรู้สึกตกใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้สึกกังวลใจเรื่องความเป็นอยู่และความปลอดภัย แต่ในชั้นนี้ยังไม่ได้รับรายงานคนไทยเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากวิบัติภัยดังกล่าว

2.1.2 ข่าวสารนิเทศกระทรวงการต่างประเทศ เรื่อง “คำแนะนำในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นฉบับล่าสุด” ซึ่งได้ประกาศเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2554 มีเนื้อหาดังนี้

“ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้ประกาศเตือนขอให้คนไทยติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงฯ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เกี่ยวกับการเดินทางไปญี่ปุ่นนั้น ขอเรียนว่า ในชั้นนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นยังมีแผ่นดินไหวจากอาฟเตอร์ช็อค (Aftershock) อยู่เป็นระยะ ประกอบกับปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยังไม่สามารถแก้ไขได้ กระทรวงฯ จึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว ขอให้ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่และติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด”

2.1.3 สอท. ได้ลงคำแนะนำในการเดินทาง ทาง twitter@rtetokyo ดังนี้

(1) โดยที่ขณะนี้ทางด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นยังมีแผ่นดินไหวจาก aftershock อยู่เป็นระยะ ประกอบกับปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าพื้นที่ดังกล่าว ขอให้ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่และติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด

(2) ขอให้ผู้ที่เดินทางไปญี่ปุ่นแจ้งข้อมูลการเดินทาง ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ในญี่ปุ่นให้ สอท. ทราบ ทางหมายเลขโทรศัพท์ +813-3222-4101 ต่อ 200 และ 275 (เวลาราชการ) หรือ +8190-8849-7785, +8190-3408-7786, +8190-1215-9369, -8190-1216-3168, +8190-1216-1871 และทางโทรสาร +813-3222-4122 หรือ E-mail: rtetokyo@hotmail.com (24 ช.ม.)

(3) สำหรับนักเรียน / นักศึกษา ที่ศึกษาในญี่ปุ่น หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปิดเรียนและเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถสอบถามได้ที่ สนง.ผู้ดูแลนักเรียนในญี่ปุ่น หมายเลขโทรศัพท์ +813-5424-0652 หรือ โทรสาร + 813-5424-0658 หรือ E-mail: csctokyo@sepia.ocn.ne.jp

2.4 การให้ความช่วยเหลือของไทยต่อญี่ปุ่น

ยอดเงินบริจาคผ่านบัญชี “เงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยญี่ปุ่น” ณ วันที่ 29 เมษายน 2554 ณ เวลา 14.00 น. จำนวน 37 ล้านบาท (ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้โอนเงินงวดแรกจำนวน 125 ล้านบาท ให้ สอท. ณ กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2554 เพื่อให้ สอท. ณ กรุงโตเกียวนำไปมอบให้แก่สภากาชาดญี่ปุ่นต่อไปแล้ว)

2.5 สถิติคนไทย

2.5.1 จำนวนคนไทยในญี่ปุ่น 40,957 คน (ข้อมูลของ สนง. ตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น) โดยเป็นคนไทยที่พำนักในพื้นที่เสี่ยงต่อกัมมันตรังสี 11 จังหวัด (ฮอกไกโด อะโอโมริ อิวาเตะ มิยาหงิ ฟุคุชิมะ อิบารากิ โทชิหงิ ชิบะ โตเกียว กุมมะ คาโงชิมา) 19,547 คน และคนไทยในพื้นที่เสี่ยงสูงต่อกัมมันตรังสี 3 จังหวัด (อิวาเตะ มิยาหงิ ฟุคุชิมะ) จำนวน 488 คน

2.5.2 จำนวนนักเรียนไทยในญี่ปุ่น 2,429 คน (ข้อมูล สนง. ผู้ดูแลนักเรียนไทย) ล่าสุดติดต่อได้ 568 คน

2.5.3 จำนวนแรงงานไทยในญี่ปุ่น ประมาณ 19,541 คน (เป็นแรงงานถูกกฎหมาย 13,541 คน แรงงาน

ผิดกฎหมายประมาณ 6,000 คน) ล่าสุดติดต่อแรงงานถูกกฎหมายได้ 6,841 คน

2.5.4 จำนวนคนไทยที่ตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัยรวม 11,156 คน (ข้อมูลของสถานเอกอัครราชทูตฯ รวบรวมจากทุกสำนักงานฯ และเครือข่ายชุมชนคนไทย)

2.5.5 จำนวนคนไทยที่เดินทางกลับ ปทท. ระหว่างวันที่ 12 มี.ค. - 15 เม.ย. 2554 จำนวน 18,039 คน (ข้อมูลศูนย์เทคโนโลยีตรวจคนเข้าเมือง)

3. ความช่วยเหลือจากต่างประเทศ

กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นสรุปยอดประเทศที่เสนอให้ความช่วยเหลือ มีจำนวน 146 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ 39 แห่ง ซึ่งมีทั้งในรูปแบบเงินบริจาค สิ่งของบริจาค และผู้เชี่ยวชาญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น