วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เอกอัครราชทูตไทยที่ยูเออีออกเยี่ยมแรงงานและคนไทยในเมืองรูเวส


เอกอัครราชทูตไทยที่ยูเออีออกเยี่ยมแรงงานและคนไทยในเมืองรูเวส




สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) รายงานว่า เมื่อวันที่ 22-23 เมษายน 2554 นายสมชัย จรณะสมบูรณ์ เอกอัครราชทูต พร้อมด้วยข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตและลูกจ้างได้เดินทางไปเยี่ยมแรงงานไทยและชุมชนไทยที่เมืองรูเวส (Ruwais) ทางตะวันตกของยูเออี

วันที่ 22 เมษายน เวลา 14.30 น. คณะฯ ได้เข้าเยี่ยมแรงานไทยของบริษัท Hydong บริษัท Gusan บริษัท WIW และบริษัทซัมซุง รวม 310 คน ซึ่งพำนักอยู่ในที่พักแรงงานแห่งเดียวกัน โดยทั้งหมดมีหน้าที่ก่อสร้างโรงงานผลิตปุ๋ยแอมโมเนีย ต่อจากนั้นเวลา 16.00 น. ได้เดินทางไปเยี่ยมแรงงานไทยของบริษัท Sungbo ซึ่งมีสุถานที่พักคนงานห่างออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร และมีแรงงานไทยจำนวน 340 คน ทำหน้าที่ก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมัน โดยสถานที่พักคนงานตั้งอยู่บนทะเลทราย เป็นเคบินติดเครื่องปรับอากาศ ปกติพักห้องละ 4 คน โดยเป็นเตียง 2 ชั้น 2เตียง

ในระหว่างการพบปะกับคนงานท่านเอกอัครราชทูตสมชัยฯ แจ้งให้แรงงานทราบถึงความห่วงใยของสถานเอกอัครราชทูตต่อแรงงานไทยทุกคน และหาโฮกาสมาเยือนเป็นระยะ เพื่อดูแลทุกข์สุขของทุกคน นอกจากนั้นยังได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับปฏิทินทางการเมืองของไทย ซึ่งคาดว่าหากมีการยุบสภาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม 2554 ก็จะมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปในสัปดาห์สุดท้ายเดือนมิถุนายน 2554 หรือสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม 2554 และการจัดการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรก็จะต้องจัดให้มีขึ้นก่อนช่วงเวลาดังกล่าวประมาณ 10วัน จึงประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้แรงงานไทยทุกคนที่ยังไม่มีกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในช่วงเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2554 ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และเดินทางไปใช้สิทธิตามวันเวลาที่สถานเอกอัครราชทูตจะกำหนดต่อไป นอกจากนี้ยังได้ให้โอวาทในเรื่องการประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ภายใต้กฎระเบียบของบริษัท รวมถึงกฎหมายและวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่นเรียบร้อยเพื่ออนาคตที่ดีของตนเองและครอบครัว ตลอดจนได้เน้นย้ำให้แรงานไทยรับทราบว่า สถานเอกอัครราชทูตได้เจรจาให้เพิ่มค่าแรงงานขั้นต่ำของแรงงานไทยในยูเออี ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่ารายได้ของแรงงานกลุ่มประเทศเอเชียใต้ ดังนั้นจึงควรทำงานให้เป็นที่พึงพอใจของนายจ้างเพื่อที่จะรับแรงงานไทยรุ่นต่อๆไปไปทำงานที่ยูเออีมากขึ้น

แรงงานไทยได้ร้องเรียนประเด็นปัญหาต่างๆ อาทิ ระบบการจ่ายเงินเดือน ค่าล่วงเวลา สถานที่รักษาพยาบาล การติดต่อสื่อสารด้วยภาษาต่างชาติ ฯลฯ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตได้มีหนังสือไปถึงบริษัทนายจ้างเพื่อขอรับคำชี้แจงด้วยแล้ว นอกจากนี้ท่านอัครราชทูตที่ปรึกษาสุรพล มณีพงษ์ ได้ให้คำเตือนแก่แรงงานไทย 4 หัวข้อหลักประกอบด้วย
1) การบริโภคและมีสุราไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอาจถูกจับกุมดำเนินคดี คุมขัง และเนรเทศออกนอกประเทศ เนื่องจากยูเออีเป็นประเทศมุสลิม และสุราเป็นข้อห้ามตามหลักศาสนา ที่ผ่านมาแรงงานไทยหลายรายถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว

2) การนำของเหลือใช้ของโรงงานที่คิดว่าเป็นเศษขยะ อาทิ สายเคเบิล สายไฟ อุปกรณ์การทำงาน ซึ่งอยู่ในบริเวณสถานที่ทำงานไปขาย จะถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ ทั้งนี้รวมถึงกรณีการเก็บโทรศัพท์ที่บุคคลอื่นทำสูญหายแล้วมาใช้ต่อด้วย

3) การถ่ายภาพสถานที่ราชการและพื้นที่หวงห้ามต่างๆ อาจมีผลให้ถูกจับกุมดำเนินคดีได้ และ

4) การประท้วงถือเป็นการทำผิดกฎหมายอูเออี ดังนั้น หากเกิดปัญหาหรือข้อพิพาทกับนายจ้างขอให้แจ้งสถานเอกอัครราชทูต และละเว้นจากการประท้วงโดยสิ้นเชิง

ในช่วงค่ำ ท่านเอกอัครราชทูตสมชัยฯ และคณะได้เดินทางไปเยี่ยมและรับประทานอาหารค่ำร่วมกับพนักงานชาวไทยของบริษัท Borouge ซึ่งเป็นวิศวกรและช่างเทคนิกพร้อมครอบครัว รวม 42 คน โดยคณะได้ให้คำปรึกษาเรื่องนิติกรณ์และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรสำหรับคนไทยที่เดินทางไปใหม่ด้วย

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบีมีกำหนดเดินทางไปเยี่ยมแรงงานไทยและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่เมืองฮับชาน (Habshan) ทางภาคตะวันตกของยูเออีซึ่งมีแรงงานไทยอยู่กว่า 2,500 คนในช่วงสัปดาห์ที่ 1-2 เดือนพฤษภาคม 2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น