วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

โครงการสอนภาษาไทย แก่บุตรหลานชาวไทยในภาคตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย


โครงการสอนภาษาไทย แก่บุตรหลานชาวไทยในภาคตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย


1. ภูมิหลัง

1.1 โครงการสอนภาษาไทยแก่เยาวชนไทยในภาคตะวันตกของซาอุดีฯ ได้จัดตั้งขึ้นมาโดยสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ร่วมกับชมรมชาวไทยในภาคตะวันตกของซาอุดีฯ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2546 โดยมีวัตถุประสงค์ในการสอนภาษาไทย ตลอดจนประเพณีวัฒนธรรมไทยให้แก่บุตรหลานชาวไทยที่พำนักอยู่ในภาคตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นเขตอาณาของสถานกงสุลใหญ่ฯ ซึ่งมีคนไทยพำนักอยู่ประมาณ 15,000 คน โดยประมาณร้อยละ 85 มาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คนไทยเหล่านี้ใช้ภาษายาวีในการสื่อสารประจำวัน และบางส่วนมีความรู้ความเข้าใจในภาษาไทยไม่มากนัก แต่ด้วยจิตสำนึกแห่งความเป็นคนไทย จึงประสงค์จะให้บุตรหลานของตนซึ่งถือกำเนิดในซาอุดีฯ มีความรู้ภาษาไทยในระดับที่สามารถพูด อ่าน และเขียนได้ดี โดยผู้ปกครองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

1.2 โครงการดังกล่าว ได้เปิดสอนทุกวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 12.30 – 17.30 น. โดยใช้พื้นที่บางส่วนของที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ฯ เป็นห้องเรียน และมีคนไทยในเจดดาห์อาสาเป็นครูสอน ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับงบประมาณสนับสนุนโครงการจากกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเป็นค่าตอบแทนครูอาสาและค่าวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็น รวมทั้งได้รับการสนับสนุนด้านสื่อการเรียน การสอนบางส่วนจากกรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ

1.3 ต่อมาในปี 2550 กระทรวงศึกษาธิการได้ให้ความเห็นชอบ ตามข้อเสนอของสถานกงสุลใหญ่ฯ ยกสถานะโครงการดังกล่าวเป็นศูนย์การเรียน การศึกษานอกโรงเรียน โดยทำการสอนระดับประถมศึกษาและการศึกษาต่อเนื่อง โดยเน้นการเรียนการสอนภาษาไทย ศิลปะ และวัฒนธรรมไทย

2. สถานะปัจจุบัน

ปัจจุบัน “ศูนย์การเรียน การศึกษานอกโรงเรียน ณ เมืองเจดดาห์” มีนักเรียนทั้งหมด 151 คน โดยเป็นบุตรหลานชาวไทยที่พำนักในเจดดาห์และมักกะห์ มีอายุระหว่าง 4 – 25 ปี แบ่งการเรียนเป็น 9 ระดับ 7 ห้องเรียน โดยมีคนไทยที่พำนักอยู่ในเจดดาห์ จำนวน 11 คน อาสาสมัครเป็นครูสอน โดยได้รับค่าตอบแทนไม่มากนักซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจัดสรรให้ นอกจากนั้น ยังมีผู้ปกครองอีกจำนวนมากที่ประสงค์จะให้บุตรหลานมาเข้าเรียน แต่สถานกงสุลใหญ่ไม่สามารถรับได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ จากการสำรวจของสถานกงสุลใหญ่ฯ ประมาณว่า ขณะนี้มีบุตรหลานที่ต้องการเข้าเรียนกว่า 400 – 500 คน

ที่มา: เว็บไซต์สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ http://www.mfa.go.th/web/2800.php?id=3439 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น