วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

ศาลกัมพูชาเรียกตัวคนไทย 5 คนให้ไปขึ้นศาล


ศาลกัมพูชาเรียกตัวคนไทย 5 คนให้ไปขึ้นศาล


เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2554 เวลา 10.00 น. นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกรณีศาลกัมพูชาเรียกตัวคนไทย 5 คน ยกเว้นนายวีระ สมความคิด และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ให้ไปขึ้นศาลในวันที่ 21 มกราคม 2554 สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2554 คนไทย 5 คน (นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ นายกิชพลธรณ์ ชุสนะเสวี นายตายแน่ มุ่งมาจน และนางนฤมล จิตรวะรัตนา) ยกเว้นนายวีระฯ และนางสาวราตรีฯ ได้ยื่น คำร้องต่อศาลกัมพูชาขอให้พิจารณาทบทวนเลื่อนวันนัดการพิจารณาคดีจากวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 ให้เร็วขึ้น ซึ่งการยื่นคำร้องต่อศาลครั้งนี้เป็นการใช้ดุลยพินิจของผู้ต้องหาแต่ละคน ในการนี้ ศาลกัมพูชาได้พิจารณาคำร้องของทั้ง 5 คนแล้ว และกำหนดให้เลื่อนการพิจารณาคดีเป็นวันที่ 21 มกราคม 2554 เวลา 14.00 น. อย่างไรก็ดี ในชั้นนี้ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการฯ ไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการพิพากษาคดีเลยหรือไม่ และไม่อยากคาดเดาใด ๆ ล่วงหน้า จนกว่าจะมีผลการพิจารณาคดี

2. ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หากศาลกัมพูชามีคำพิพากษาคดีและปรากฏว่า คนไทย 5 คนได้รับการปล่อยตัว ยกเว้นนายวีระฯ ซึ่งยังถูกขังอยู่ที่เรือนจำ และนางสาวราตรีฯ ซึ่งพำนักอยู่ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ นั้น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวย้ำว่า ไม่อยากจะคาดเดาใด ๆ ล่วงหน้า และควรรอดูผลการพิพากษาคดีก่อน แต่ไม่ว่าผลจะออกมาในลักษณะใด รัฐบาลไทยมีเป้าหมายสูงสุด คือ การนำตัวคนไทยทั้งหมดกลับมาประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการให้ความช่วยเหลือแก่คนไทยทั้ง 7 คนโดยเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีคนไทยอีก 2 คนนั้น กระทรวงฯ ก็พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งด้านกฎหมาย การดูแลสวัสดิภาพ และการเข้าเยี่ยม

3. กรณีกลุ่มที่ปรึกษาด้านกฎหมายชาวไทยของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติออกมาให้ข่าวว่า ทนายความชาวกัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือและไม่ยอมพบกับกลุ่มฯ นั้น เลขานุการรัฐมนตรีว่าการฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทนายความชาวกัมพูชาจะพิจารณา ซึ่งรัฐบาลไทยหรือสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ไม่สามารถบังคับทนายความชาวกัมพูชาได้ เพราะเป็นเรื่องระหว่างทนายความกับลูกความ แต่ก็ยืนยันที่จะให้ความร่วมมือและช่วยประสานงานให้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ หากลูกความต้องการเปลี่ยนตัวทนายความก็เป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้

21 มกราคม 2554


ที่มา: ข่าวสารนิเทศ วันที่ 21 มกราคม 2554 กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น