วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปลาว


ข้อควรรู้ก่อนเดินทางไปลาว

วัฒนธรรมและประเพณี
ไทยและลาวมีพื้นฐานวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน แต่ต่างก็มีพัฒนาการในแบบฉบับของตัวเอง ภาษาไทยและลาวมีความคล้ายคลึงกันและสื่อสารกันเข้าใจได้ ทำให้หลายๆท่านที่ไม่สันทัดภาษาอังกฤษ มาเที่ยวลาวได้อย่างสบายใจ ชาวลาวทั่วไปมีอัธยาศัยโอบอ้อมอารีและทำให้คนไทยรู้สึกคุ้นเคยได้ไม่ยาก มีคำแนะนำบางประการที่จะช่วยให้คนไทยผู้มาเป็นแขกรักษาน้ำใจของเจ้าภาพและสร้างมิตรใหม่ในประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงแห่งนี้

เรื่องแรกคือ เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและลาว คำว่าบ้านใกล้เรือนเคียงเป็นคำที่เหมาะสมในทุกบริบท คำว่าบ้านพี่เรือนน้องแม้ว่าจะสื่อความสัมพันธ์ใกล้ชิดฉันท์ญาติได้ดีกว่า แต่พึงเข้าใจว่าหมายถึงความเป็นพี่เป็นน้องของประชาชนไทยและลาวที่นับญาติและนับถือตามอาวุโส ไม่ได้หมายถึงว่าเมืองใดเป็นพี่และประเทศใดเป็นน้อง

คำหนึ่งในภาษาลาวที่แสดงถึงสายสัมพันธ์แบบเครือญาติคือคำว่า เป็นแก่วเป็นดอง หมายถึงการเกี่ยวดองกันโดยการแต่งงาน ดังตัวอย่างในสุนทรพจน์ของฯพณฯจูมมาลีทไชยะสอน ประธานประเทศแห่งสปปงลาว ในงานพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำในวันที่ 12 พฤษภาคม 2552 ณ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬารว่า “ลาวและไทยเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีประเพณีวัฒนธรรมและภาษาพูดคล้ายคลึงกัน พร้อมทั้งมีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวพันกันมาแต่โปราณกาล นอกจากนี้ประชาชนไทยและประชาชนลาวยังมีสายสัมพันธ์ฉันญาติพี่น้องและเป็นแก่งเป็นดองกันมาเนิ่นนาน” หรือคำว่า “ไปพุ้นกินปลา มานี่กินข้าว” ก็แสดงให้เห็นปฏิสัมพันธ์ของคนสองฝั่งโขงที่ใกล้ชิดกัน สามารถไปกินปลาที่โน่นมากินข้าวที่นี่

เรื่องที่สอง ควรระมัดระวังหัวข้อสนทนา การเริ่มสนทนาด้วยเรื่องดินฟ้าอากาศ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ละครทีวี หรือปรับทุกข์เรื่องราคาน้ำมันเป็นเรื่องทั่วไปที่หาคนร่วมวงได้ไม่มีปัญหา แต่บางหัวข้อที่หมิ่นเหม่ต่อการกระทบกระเทือนความรู้สึกของผู้ฟังก็ควรหลีดเลี่ยงอย่างยิ่งเช่น การนำความแตกต่างทางภาษา วิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรม เปรียบเทียบหรือล้อเลียนในเชิงตลกขบขัน (มีหลายกรณีที่คนไทยได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดจาดสื่อบันเทิงเกี่ยวสกับคำศัพท์ภาษลาวหรือชื่อภาพยนตร์) และการแสดงความคิดเห็นแบบชาตินิยมที่อาจะนำไปสู่การโต้ถียงในประเด็นที่ละเอียดอ่อนเช่น ประวัติศาสตร์ การเมืองการปกครอง นอกจากนี้ยังควรเลี่ยงการสนทนาเกี่ยวกับการเมืองภายในของไทยและไม่ควรซักถามหรือคาดคั้นให้คนลาวแสดงความเห็นเกี่ยวกับประเทศไทยหรือสถาบัน ยกเว้นเป็นการแสดงความเห็นโดยสมัครใจของคนลาวก่อนเอง

เรื่องต่อมา ควรเข้าใจว่า สปป.ลาวมีมาตรฐานการดำเนินชีวิต วัฒนธรรมประเพณีในแบบฉบับของชาวลาว การได้มาเยือนสปป.ลาวเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของท้องถิ่นของประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดของเราเอง การนำมาตรฐานการดำเนินชีวิตในประเทศไทยมาเป็นข้อเปรียบเทียบ เรียกร้อง จะทำให้เจ้าบ้านไม่สบายใจหรืออึดอัดใจได้

เรื่องสุดท้าย ควรทราบและปฏิบัติตามกฎหมายและวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของลาว เช่น ควรแสดงความเคารพบุคคลสำคัญของลาวที่คนลาวเคารพยกย่องอย่างเหมาะสม ควรแต่งกายให้เหมาะสมกับกาละเทศะโดยเฉพาะเมื่อไปสถานที่ทางศาสนาและสถานที่ราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ควรแต่งเครื่องแบบและพกอาวุธเข้ามาในสปป.ลาว หากมิใช่เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ควรทราบว่าห้ามพักค้างคืนที่บ้านคนลาวโดยไม่แจ้งต่อนายบ้าน (ผู้ใหญ่บ้าน) ก่อน และการมีเพศสัมพันธ์กับคนลาวที่ไม่ใช่คู่สมรสเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หากละเมิดจะถูกกักตัวจนกว่าจะนำเงินมาจ่ายค่าปรับขั้นต่ำ 500 ดอลลาร์สหรัฐ และถูกส่งกลับประเทศ จึงต้องระวังและหลีดเลี่ยงหากถูกชักนำให้ไปท่องเที่ยวและซื้อบริการที่ผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดี

การใช้จ่ายและทำธุรกิจ
นักท่องเที่ยวไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ของร้านค้าปลอดภาษีที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว ตลาดเช้า ตลาดจีน และอีกหลายตลาดในสปป.ลาว โดยทั่วไปร้านค้าท้องถิ่นรับเงินบาทไทย แต่ตามกฎหมายของ สปป.ลาวกำหนดให้ต้องชำระเป็นเงินกีบเท่านั้น (ประพกาศธนาคารแห่งสปป.ลาว เลขที่ 92 ลงวันที่ 2 มีนาคม 2550) และร้านค้าต้องติดป้ายแสดงสินค้าเป็นเงินกีบ ร้านค้าที่รัวบบัตรเครดิตยังมีไม่มากนัก และมักให้เจ้าของบัตรเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมธนาคาร จึงควรสอบถามให้ชัดเจนก่อนลงนามในสลิป

การเข้ามาซื้อสินค้าปลอดภาษีที่บริเวณด่านฝั่งลาว อาทิ ไวน์ สุรา บุหรี่ นั้น ต้องมีเอกสารเข้าเมืองตามปกติและพึงระลึกไว้เสมอว่าตามกฎหมายไทยอนุญาตให้นำเข้าสุราได้ไม่เกินคนละ 1 ลิตร และนำเข้าบุหรี่ได้ไม่เกินคนละ 200 มวน

บัตร ATM ประเภท Domestic (บัตรใช้ภายในประเทศไทย) ไม่สามารถถอนเงินสดได้ใน สปป. ลาว จะสามารถใช้บัตร ATM ได้เฉพาะที่ที่มีเครื่องหมาย Visa / Master โดยถอนเป็นเงินสกุลกีบเท่านั้น และหากจะนำเงินเข้าออก สปป.ลาวเกิน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (สองหมื่นดอลลาร์สหรัฐถ้วน) ต้องยื่นสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งไทยและลาว สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะลงทุนในลาวพึงตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ร่วมทุน หรือบริษัทที่ร่วมทุนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสปป.ลาวก่อน หรือติดต่อสอบถามที่สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เวียงจันทน์ โทร. (0007) 856-21 413704 และควรศึกษากฎระเบียบของลาวเพื่อดำเนินการได้ถูกต้องตามขั้นตอน เช่น การจดทะเบียนประกอบธุรกิจ

สุขภาพและความปลอดภัย
สปป.ลาวเป็นประเทศที่สุขสงบ แต่ตามเมืองใหญ่อาจมีการฦฉกชิงวิ่งราว เหมือนเมืองใหญ่อื่นๆทั่วโลก นักท่องเที่ยวควรระวังเสมอเพื่อป้องกันการกระชากกระเป๋า การจี้ปล้น ซึ่งเคยปรากฏเป็นกรณีมาแล้ว เช่น ไม่ควรออกมาเดินเที่ยวเล่นในยามวิกาล ตามสถานที่เปลี่ยว การสะพายกระเป๋าควรสะพายในลักษณะคล้องคอเอาไว้ด้านหน้า ไม่ควรสะพายคล้องไหล่ และหากถูกจี้ปล้น ไม้ควรต่อสู้กับคนร้ายเพราะอาจถูฏทำร้ายจนบาดเจ็บ

สำหรับการรักษาสุขภาพ
นักท่องเมี่ยวควรเตรียมยารักษาโรคที่จำเป็นติดตัวไว้เสมอ รวมทั้งมีหมายเลขโทรศัพท์ในไทยเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉิน และในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินและต้องไปรักษาพยาบาลในประเทศไทย สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตเพื่อประสานให้ด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 (หนองคาย – นครหลวงเวียงจันทน์) อำนวยความสะดวกในการข้ามแดนทั้งในและนอกเวลาทำการของด่าน(ด่านเปิดเวลา 06.00 – 22.00 น.) อนึ่ง ร้านอาหารในลาวนิยมปรุงอาหารโดยใส่ผงชูรสในปริมาณมาก ผู้ที่แพ้ผงชูรสควรแจ้งให้ร้านอาหารทารบก่อนสั่งอาหารทุกครั้ง (ภาษาลาวเรียกผงชูรสว่า แป้งนัว)

การกระทำที่ผิดกฎหมาย
สปป.ลาวให้ความสำคัญกับการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม เรื่องที่ทั้งสปป.ลาวและไทยเข้มวงดอย่างยิ่งคือปัญหายาเสพติด การมียาเสพติดไว้เพื่อเสพหรือซื้อขาย รวทั้งการพกพาอาวุธและของต้องห้ามไว้ในครอบครองเป็นสิ่งผิดกฎหมายขั้นรุนแรงของทั้งสปป.ลาวและไป ผู้ฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีลงโทษตามกฎหมายในขั้นสูงสุด (โทษประหารชีวิต / จำคุกตลอดชีวิต) กรณีตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้น คือ ชาวต่างประเทศหลอกให้หญิงไทยและหญิงลาวขนของที่ซุกซ่อนยาเสพติด หรืออาศัยที่อยู่เป็นที่ส่งพัสดุซ่อนยาเสพติดจากต่างประเทศโดยให้ค่าจ้างเป็นเงิน

กิจกรรมที่ต้องขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของลาวก่อนได้แก่ การแจกจ่ายใบปลิวหรือเอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ต่างๆ การถ่ายทำภาพยนตร์ ละคร มิวสิควีดีโอ ข่าว สารคดี หรือรายการโทรทัศน์ (ทางการลาวจะจัดเจ้าหน้าที่ติดตามควบคุมการถ่ายทำทุกกรณีตลอดเวลาที่พำนักในลาว) และการชุมนุมเพื่อทำกิจกรรม เช่น การสัมมนา การเผยแพร่ศาสนา การสอนภาษา และการขายสินค้า หากฝ่าฝืนจะถูกปรับขั้นต่ำ 500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือทั้งจำทั้งปรับ

กิจกรรมที่ห้ามทำ ได้แก่ ห้ามถ่ายภาพสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เช่น ค่ายทหาร สถานีเรดาห์ หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี โดยมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเคยปรากฏเป็นกรณีมาหลายครั้งแล้ว และห้ามนักท่องเที่ยวลงไปเดินบริเวณหาดทรายในแม่น้ำโขงหลัง 17.00 น. หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ

ที่มา : เอกสาร "ไขประตูสู่ลาว"โดยสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น