วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

กระทรวงการต่างประเทศแจ้งความคืบหน้ากรณีคนไทย 7 คน


กระทรวงการต่างประเทศแจ้งความคืบหน้ากรณีคนไทย 7 คน


เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2554 นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงและรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือคนไทย 7 คน สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

1. ต่อข้อกล่าวหาที่ว่า กลุ่มนักกฎหมายคนไทยที่เดินทางไปกรุงพนมเปญไม่ได้เข้าเยี่ยมคนไทย 7 คน และไม่ได้รับการประสานให้พบกับทนายความชาวกัมพูชา เพราะสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ไม่ให้ความร่วมมือ นั้น ขอเรียนว่า เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญได้พบกลุ่มนักกฎหมายคนไทยตั้งแต่วันแรกที่เดินทางไปถึงและยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดี จากการประสานงานกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อขออนุญาตให้กลุ่มนักกฎหมายคนไทยได้เข้าเยี่ยม ฝ่ายกัมพูชาชี้แจงว่า คงไม่สามารถอนุญาตให้กลุ่มนักกฎหมายคนไทยเข้าเยี่ยมได้ เนื่องจากตามปกติแล้ว ในระหว่างที่คดียังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของศาล ทางการกัมพูชาจะอนุญาตให้เฉพาะเจ้าหน้าที่กงสุลและทนายความของจำเลยเข้าพบจำเลยได้เท่านั้น แต่ที่ผ่านมาให้อนุญาตให้นำญาติเข้าเยี่ยมเป็นกรณีพิเศษเนื่องจากคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ส่วนทนายความชาวกัมพูชานั้นยังไม่สะดวกที่จะพบกับกลุ่มนักกฎหมายคนไทยในขณะนี้


2. เกี่ยวกับความคืบหน้าในการพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2554 นายวีระ สมความคิด และนางสาวราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ได้เดินทางไปที่ศาล เพื่อไต่สวนเพิ่มเติมตามข้อกล่าวหา “พยายามประมวลข่าวสารซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อการป้องกันประเทศ” แต่นายวีระฯ ใช้สิทธิขอไม่ให้การต่อศาลและจะให้การต่อหน้าล่ามที่ฝ่ายไทยจัดหาให้เท่านั้น ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ พร้อมให้การสนับสนุนในการจัดหาล่ามให้ และอยู่ระหว่างการประสานกับฝ่ายกัมพูชาว่าจะอนุญาตให้ใช้ล่ามจากฝ่ายไทยในศาลของกัมพูชาได้หรือไม่

3. สำหรับคนไทยอีก 5 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือมีการพิจารณาคดีเมื่อใด ซึ่งหวังว่าจะทราบภายในสัปดาห์นี้ และหากดำเนินการได้ ก็จะดำเนินการไปก่อน ส่วนกรณีของนายวีระฯ กับนางสาวราตรีฯ คงต้องใช้เวลาในการพิจารณามากขึ้น ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการยุติธรรมและทราบผลการพิพากษาแล้ว รัฐบาลไทยจะต้องพูดคุยกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อให้การช่วยเหลือคนไทย 7 คน ให้กลับมาโดยเร็วที่สุด

4. ต่อข้อซักถามที่ว่ามีความพยายามที่จะแลกตัวผู้ต้องหาหรือไม่นั้น กระบวนการส่งตัวผู้ต้องหามีการปฏิบัติอยู่แล้ว กล่าวคือ เมื่อครบวาระก็ส่งตัวกลับไป แต่คงไม่สามารถเอามาผูกโยงกับกรณีนี้ได้ และยังไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้ เพราะต้องพิจารณาถึงข้อกฎหมายของไทยว่ามีความสอดคล้องกับการดำเนินการครั้งนี้อย่างไร รวมไปถึงกฎหมายของกัมพูชาที่เกี่ยวข้องกับการแลกตัวผู้ต้องหาด้วย


14 มกราคม 2554


ที่มา: ข่าวสารนิเทศ วันที่ 14 มกราคม 2554 กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น