วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทยในไต้หวันรณรงค์แรงงานไทยไม่ดื่มเหล้า


สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทยในไต้หวันรณรงค์แรงงานไทยไม่ดื่มเหล้า


(บทความนี้จัดทำโดยสำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ประจำไทเปโดยใช้ชื่อว่า "แรงงานไทย หากไม่ดื่มเหล้า เศร้าไม่มี เป็นศรีแก่ตัว"เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ชักชวนแรงงานไทยในไต้หวันให้เลิกพฤติกรรมดื่มสุราจนเมามาย กองคุ้มครองฯ ขอขอบคุณสำนักงานการค้าฯ ที่อนุญาตให้นำบทความมาลงพิมพ์ซ้ำในเว็บบล็อกนี้เพื่อเผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับทราบ)


หลายคนยังเชื่อกันอยู่ว่า ไต้หวันเป็นสวรรค์สำหรับแรงงานไทยที่หวังจะไปก่อร่างสร้างตัว เพราะในไต้หวันมีงานมากมายหลายหลากที่รอรับพี่น้องแรงงานชาวไทย จึงไม่น่าประหลาดใจที่ทุกวันนี้ไต้หวันเป็นที่ที่มีแรงงานไทยไปทำงานมากที่สุดยิ่งกว่าทุกประเทศในโลกด้วยจำนวนกว่า 65,000 คน โดยพี่น้องแรงงานไทยส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างไรก็ดี พบว่ามีแรงงานจากชาติอื่นๆเช่น เวียดนาม และฟิลิปปินส์ เริ่มได้รับความนิยมชมชอบจากนายจ้างชาวไต้หวันมากขึ้นเรื่อยๆจนขึ้นแซงหน้าแรงงานไทยไปแล้ว

ทราบหรือไม่ว่าอะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นายจ้างชาวไต้หวันอิดหนาระอาใจกับแรงงานไทยเป็นยิ่งนัก หลักๆก็เรื่องแรงงานไทยติดเหล้า เมาร่ำสุรากันจนเสียงานเสียการนั่นแหละ และเมาขึ้นมาทีไรก็ก่อปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง ทำร้ายร่างกายถึงขั้นฆ่ากันตาย หรือไม่ก็ไปประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนจนบาดเจ็บล้มตายเพราะขี่จักรยานหรือมอเตอร์ไซด์ทั้งๆที่ยังไม่สร่างเมา

ตัวอย่างเมื่อค่ำวันที่ 23 มิถุนายน 2551 ขณะที่คุณบุญศรี ทองภูบาล แรงงานไทยคนหนึ่งในไต้หวันปั่นจักรยานเลียบถนนกลับที่พักเกิดอุบัติเหตุถูกรถผสมปูนขนาดยักษ์เฉี่ยวชนล้มและทับจนเสียชีวิต ทีแรกฝ่ายรถผสมปูนกะจะไม่รับผิดชอบโดยพยามอ้างว่าคุณบุญศรีฯดื่มสุราเมา และถีบจักรยานโอนเอนไปเกี่ยวรถผสมปูนเอง เนื่องจากรู้ๆกันอยู่ว่าแรงงานไทยส่วนใหญ่ตกเย็นก็มักจะร่ำสุรากันจนเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาไปแล้ว เดชะบุญที่ผลการพิสูจน์เลือดจากศพของคุณบุญศรีฯ ไม่พบว่ามีแอลกอฮอล์ลในปริมาณที่ชี้ชัดว่าคุณบุญศรีฯ เมาแล้วขับขี่รถจักรยาน สุดท้ายครอบครัวของคุณบุญศรีฯ เลยได้รับค่าชดใช้และค่าประกันภัยจากฝ่ายรถผสมปูนถึง 3 ล้านบาท ซึ่งความจริงแม้จำนวนเงินเท่าใดก็ไม่อาจเทียบได้กับชีวิตของคุณบุญศรีฯ แต่ที่น่าคิดคือหากวันนั้นคุณบุญศรีฯ ดื่มสุรา ในวันนี้ภริยาและครอบครัวของคุณบุญศรีฯคงไม่ได้รับเงินค่าชดใช้ใดๆเลยจากอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตของผู้นำครอบครัวก็เป็นได้

ชีวิตและครอบครัวของคุณบุญศรีฯ จึงน่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้พี่น้องแรงงานไทยได้ตระหนักถึงประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมอันพึงได้หากรักษาตัวให้ห่างไกลสุรา

สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทยประจำไต่หวันประสบปัญหาเนื่องจากการดื่มสุราของพี่น้องแรงงานไทยจำนวนมากหลายคดีความ นักโทษชายไทยที่ส่วนใหญ่ต้องโทษในคดีฆ่าคนตายหรือทำร้ายร่างกายก็เพราร่ำสุรากันจนเมามายและฆ่า หรือทำร้ายกันเอง

บางพวกก็อ้าว่าต้องดื่มสุราคลายเครียด เนื่องจากกลุ้มใจจากปัญหาหนี้สินค่านายหน้าที่ตนก่อไว้ก่อนจะเดินทางออกมาทำงาน ซึ่งคงต้องทำงานใช้หนี้อีกนานเป็นปีๆกว่าจะหมด แต่พอซดเหล้าเมาก็ก่อปัญหาสารพัดให้ตัวเองอีก วนเวียนเป็นวงจรอุบาทอยู่อย่างนี้ทั้งปีทั้งชาติ

นักโทษไทยหลายรายที่สำนักงานการค้าฯ ไปเยี่ยมในคุกบ่นเสียใจที่ตนเองต้องเสียอนาคตเพราะเพียงแค่ดื่มเหล้าเท่านั้น สงสารทางบ้านที่รอการกลับมาของพ่อ ของลูก ของพี่ หรือของน้องด้วยความหวังว่าจะนำพาชีวิตความเป็นอยู่ของครคอบครัวให้ดีขึ้น แต่กลายเป็นว่าครอบครัวต้องหาเงินเพื่อส่งไปช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในคุกแทน

วันนี้สำนักงานการค้าฯ จึงมุ่งมั่นจุดประกายแนวคิดใหม่ โดยเสนอให้นายจ้างชาวไต้หวันหันไปว่าจ้างและให้สิทธิประโยชน์แก่แรงงานไทยที่ไม่ดื่มสุรา เพราะเชื่อว่าโดยวิธีนี้จะได้แรงงานที่มีคุณภาพดีกว่าทำงานได้มีประสิทธิภาพกว่าแรงงานที่ติดสุราหรือดื่มสุราเป็นอาจิณ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งนายจ้างและกระทรวงแรงงานไทยต่างขานรับและสนับสนุนแนวคิดนี้แล้ว โดยต่อไปนี้ คนหางานที่ไม่ดื่มสุราอาจมีโอกาสได้รับการว่าจ้างโดยตรงจากนายจ้างชาวไต้หวัน โดยไม่ต้องเสียค่านายหน้าหรือค่าหัวคิวอีกต่อไป

ถือเป็นการให้ประโยชน์แก่แรง่านที่ไม่ดื่มสุรา แต่มิใช่ต่อต้านคนดื่มสุรา เพราะมิใช่หน้าที่ของสำนักงานการค้าฯ

นอกจากนี้ การจ้างตรงโดยไม่ต้องผ่านเอเย่นต์ก็กำลังเป็นที่สนใจของหน่วยงานภาครัฐทั้งฝ่ายไทยและไต้หวัน เนื่องจากได้รับกระแสกดดันจากอารยประเทศว่า ค่านายหน้าสูงลิ่วที่คนหางานต้องเสียไปนั้นเป็นต้นเหตุของกระบวนการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ดังนั้นการจ้างตรงระหว่างนายจ้างกับแรงงานจึงกำลังเป็นที่ต้องการมากขึ้นในตลาดแรงงานโลก และเมื่อการจ้างตรงเป็นสิทธิของนายจ้างที่จะคัดเลือกแรงงานได้เองแล้ว ก็แน่นอนว่านายจ้างที่ฉลาดย่อมเลือกคนหางานที่ไม่ดื่มสุรามาเป็นคนงานของตนก่อน

พูดกันง่ายๆ ว่า ต่อไปนี้พี่น้องแรงงานไทยที่ไม่ดื่มสุราย่อมจะมีโอกาสและอนาคตที่สดใสกว่าคนหางานขี้เหล้าแน่นอน

ทั้งฟันธงและคอนเฟิร์ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น