วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

เอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ได้พบหารือกับนายมุสตาฟา จาฮิต คือรัช (Mr. Mustafa Cahit Kıraç) ผู้ว่าราชการอิซเมียร์


 
เอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ได้พบหารือกับนายมุสตาฟา จาฮิต คือรัช (Mr. Mustafa Cahit Kıraç) ผู้ว่าราชการอิซเมียร์

เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2554 นายรัฐกิจ มานะทัต เอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา ได้พบหารือกับนายมุสตาฟา จาฮิต คือรัช (Mr. Mustafa Cahit Kıraç) ผู้ ว่าราชการอิซเมียร์ สาระสำคัญของการหารือประกอบด้วย (1) การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและตุรกีให้แนบแน่นยิ่งขึ้น ทั้งในระดับรัฐบาล – รัฐบาล และประชาชน – ประชาชน (2) การสมัครเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo 2020 ของอยุธยา และอิซเมียร์ ซึ่งผู้ว่าราชการฯ ได้สอบถามความเห็นของเอกอัครราชทูตฯ เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเอกอัครราชทูตฯ ให้ความเห็นว่า การแข่งขันเป็นเรื่องที่ดี หากอยู่บนพื้นฐานของมิตรภาพและความยุติธรรม ซึ่งไม่ว่าอยุธยาหรืออิซเมียร์จะได้เป็นเจ้าภาพการจัด World Expo 2020 ก็ ตาม ตนก็ยินดี เพราะตุรกีเป็นมิตรที่ดีของไทย และ (3) การจัดงานสัปดาห์อาหารและวัฒนธรรมไทยของสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่อิซเมียร์ โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญผู้ว่าราชการฯ และภริยาเข้าร่วมพิธีเปิดงานดังกล่าวในคืนวันที่ 15 กันยายน ด้วย ทั้งนี้ ภายหลังการหารือ เอกอัครราชทูตฯ และผู้ว่าราชการฯ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวร่วมกันด้วย

ต่อมาในวันที่ 16 กันยายน 2554 เอกอัครราชทูตฯ ได้พบหารือกับนายจัค เอสคินาซิ (Mr. Jak Eskinazi) รอง ประธานหอการค้าอิซเมียร์ เกี่ยวกับแนวทางในการส่งเสริมอาหารไทยในตุรกี และการส่งเสริมการค้าระหว่างไทย – ตุรกี ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ประสงค์ให้มูลค่าการค้าระหว่างไทย – ตุรกี เพิ่มจาก 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งนายจัคฯ ได้ให้ความเห็นว่า การส่งเสริมอาหารไทย รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้คนตุรกีรู้จักประเทศไทยมากขึ้น โดยการจัดเทศกาลอาหารและวัฒนธรรมไทยตามที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ดำเนินการอยู่นั้น เป็นวิธีการที่ถูกต้องแล้ว สำหรับการส่งเสริมการค้าระหว่างกัน ควรดำเนินการผ่านการแลกเปลี่ยนการเยือนของคณะนักธุรกิจ ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า โดยที่ตุรกีและไทยยังรู้จักกันไม่มากนัก จึงควรจะต้องผลักดันให้มีการเยือนในระดับผู้นำ โดยมีนักธุรกิจร่วมคณะไปด้วย เพื่อเป็นการสร้างกระแสให้ทั้ง 2 ประเทศหันมาให้ความสนใจและให้ความสำคัญกันมากขึ้น

            อิซเมียร์เป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 3 ของตุรกี มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นเมืองท่าที่สำคัญของตุรกีและเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญเมือง หนึ่งของตุรกีด้วย เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญและมีชื่อเสียง อาทิ แบร์กามา เอเฟซุส และบ้านพระแม่มารี รวมทั้งยังมีท่าอากาศยาน โรงแรม และระบบ   การคมนาคมขนส่งที่สะดวก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น